คำถามที่พบบ่อย (Q&A)

โทรศัพท์ / โทรสาร              036-798253

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์      info@mutchalin.go.th

Facebook       คลิกที่นี่        

ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

  1. สัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
  2. อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  3. 3. ต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์ประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ 

1. รับเงินสดด้วยตนเอง
2. รับเงินสดโดยผู้รับมอบอำนาจ
3. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารนามผู้มีสิทธิ
4. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้รับมอบอำนาจ

1.ผู้พิการรายใหม่ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน และผู้พิการที่ย้ายภูมิลำเนาเข้ามาใหม่ ก่อนหรือภายในเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น
2. ผู้พิการซึ่งจะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้

– มีสัญชาติไทย
– มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
– มีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ
– ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ

คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการจะต้องนำหลักฐานประกอบแบบคำขอลงทะเบียนดังนี้

  1. บัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการพร้อมสำเนา
  2. ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา
  3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพร้อมสำเนา สำหรับกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยความพิการผ่านธนาคาร
  4. บัตรประจำตัวประชาชนผู้ดูแลคนพิการ กรณีเป็นผู้ยื่นคำขอแทนคนพิการ

 

ในการยื่นคำขอลงทะเบียนรับเงินเบี้ยความพิการ จะต้องแสดงความประสงค์ของรับเงินเบี้ยความพิการโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง

  1. รับเงินสดด้วยตนเอง
  2. รับเงินสดโดยผู้ดูแลคนพิการ
  3. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารนามผู้มีสิทธิ
  4. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้ดูแลคนพิการ